ฮีทสโตรก ภัยเงียบที่เป็นอันตรายต่อเจ้าตัวเล็กของคุณถึงชีวิต 

by animalkingdom
351 views
โรคฮีทสโตรก

ตอนนี้ก็เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้วและอากาศก็ร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง มนุษย์อย่างเรานั้นยังรู้สึกทนกับอากาศร้อนไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับเจ้าตัวเล็กทั้งหลายที่จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีทสโตรกที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ มันเป็นโรคร้ายที่อันตรายถึงขั้นที่จะคร่าชีวิตบรรดาเด็กๆ ในบ้านของคุณไปได้เลย และปัญหาก็เกิดมาจากอากาศร้อน รวมไปถึงอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยเรานี่เอง วันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมรวมไปถึงวิธีการดูแลเจ้าตัวเล็กทั้งหลายในช่วงฤดูร้อนอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคลมแดด

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับฮีทสโตรก โรคร้ายที่เกิดจากอากาศร้อน 

โรคฮีทสโตรก

เวลาที่คุณอยู่นอกบ้านกลางแดดเป็นเวลานาน ๆ ก็สามารถเป็นลมแดดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดโรคฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งโรคนี้เกิดจากการที่อุณหภูมิพุ่งขึ้นสูง จนทำให้ร่างกายของสัตว์เลี้ยงสูญเสียความสามารถ ที่จะระบายความร้อนอย่างสมดุลไป เมื่อร่างกายของพวกเขาไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ดีพอ มันก็จะสะสมและส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบอวัยวะภายในร่างกายของพวกเขา มันเป็นอาการป่วยที่มีหลายระดับและสามารถรุนแรงได้มากที่สุดถึงชีวิตเลยทีเดียว ที่สำคัญมันเกิดขึ้นได้กับสัตว์ทั่วไปโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเช่น สุนัข แมว ไปจนถึงสัตว์ฟันแทะทั้งหลาย อย่างเช่น กระต่าย หรือ หนูแฮมเตอร์ 

วิธีการสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของเราว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่นั้น ให้ดูจากการที่พวกเขามีอาการหอบหรือไม่ เพราะสัตว์เลี้ยงที่เป็นลมแดดนั้นส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีอาการหอบและหายใจไม่ทัน พวกเขาจะอ้าปากเพื่อหายใจอย่างรุนแรงมากกว่าปกติ ให้สังเกตบริเวณเหงือกและลิ้นว่ามีสีแดงจัดหรือไม่ เนื่องจากหากอาการรุนแรงจะทำให้บริเวณเหงือกและลิ้นของพวกเขามีสีที่ซีดลงกว่าเดิม และต้องหมั่นตรวจสอบอุณหภูมิของพวกเขาว่ามากกว่า 40 องศาเซลเซียสหรือไม่ โดยให้วัดผ่านทางทวารหนัก หากอุณหภูมิมากกว่า 40 องศาเซลเซียสหมายความว่า พวกเขามีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคลมแดดเป็นอย่างมาก 

โรคฮีทสโตรก

หากอาการฮีทสโตรกรุนแรงสัตว์เลี้ยงบางตัวนั้นก็จะมีอาการอ่อนเพลีย เซื่องซึม ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม น้ำลายยืดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บางตัวก็อาจจะสมองเบลอ จดจำเจ้าของหรือเพื่อนไม่ได้ อาจมีพฤติกรรมดุร้ายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และยังสามารถล้มลงไปนอนชักจนหมดสติได้เลยทีเดียว หากพบว่ามีหนึ่งในอาการเหล่านี้ต้องรีบแก้ไขในทันทีหรือพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะหากรักษาไม่ทันก็อาจจะทำให้พวกเขาจากโลกใบนี้ไปตลอดกาลได้เช่นเดียวกัน โดยวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อร่างกายของพวกเขาอุณหภูมิสูงจนเกินไปคือ การพาพวกเขามาอยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็นสบายอย่างเช่น ใต้ร่มไม้ที่ไม่มีแดด ในห้องแอร์ หรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก 

หากพวกเขาสวมใส่เสื้อผ้า สายรัด หรือปลอกคอ ให้นำเอาสิ่งเหล่านี้ออกให้หมดเพื่อให้พวกเขาสามารถหายใจได้อย่างสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ควรนำเอาผ้ามาห่มหรือห่อตัวพวกเขาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้พวกเขาระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ยากขึ้นกว่าเดิม ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเวณใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาเพื่อช่วยในการระบายความร้อนภายในร่างกาย ข้อควรระวังคือต้องใช้น้ำอุณหภูมิห้องเท่านั้น ห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเย็นจัด หรือน้ำอุ่นโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้พวกเขาเกิดภาวะช็อกตามมาได้ หลังจากนั้นก็ให้รีบพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป 

โรคฮีทสโตรก

โดยสายพันธุ์ที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษก็คือ สายพันธุ์ที่มาจากประเทศเขตหนาวอย่างเช่น สุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้หรือแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย สายพันธุ์ที่มีขนยาวและขนหนา มีขนาดตัวใหญ่ เนื่องจากพวกเขานั้นเหมือนสวมใส่เสื้อขนเฟอร์ประจำกายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าอากาศจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม มันทำให้พวกเขาไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ดีพอ และด้วยความที่กำเนิดมาจากประเทศเมืองหนาวอยู่แล้ว ร่างกายของพวกเขาจึงไม่ได้รับการออกแบบมา ให้รับมือกับอากาศร้อนเหมือนกับในประเทศไทยแต่อย่างใด ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังพวกเขาเอาไว้ให้ดีเป็นพิเศษ 

ป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดโรคฮีทสโตรก

โรคฮีทสโตรก

ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างถึงขีดสุด แต่หากคุณไม่ต้องการให้เกิดฮีทสโตรกขึ้นกับสัตว์เลี้ยงก็มีวิธีการป้องกันมากมาย เริ่มต้นจากการงดพาพวกเขาออกไปวิ่งเล่นภายนอกบ้าน ในช่วงเวลากลางวันที่แดดจัดหรือมีอากาศร้อนจัด ช่วงนี้อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายไปก่อน หรือออกกำลังกายในบริเวณที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี บริเวณที่เราเลี้ยงพวกเขานั้นควรมีน้ำสะอาดติดไว้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนเพราะน้ำจะช่วยระบายอากาศร้อนภายในร่างกายของพวกเขาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งหากเป็นน้ำเย็นได้ก็ยิ่งดี 

ในกรณีที่เราพาพวกเขาออกนอกบ้าน บริเวณนั้นควรต้องจะมีร่มเงาที่พวกเขาสามารถมาหลบแดดได้ ในขณะเดียวกันบริเวณที่เลี้ยงเองก็ควรจะเป็นบริเวณที่มีร่มเงา มีอากาศถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา ไม่ร้อนอบอ้าว ในวันที่อากาศร้อนจัดควรเปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิให้ต่ำลง หรือสำหรับใครที่อยากประหยัด ในปัจจุบันนี้ก็มีกระบะเย็นหรือแผ่นเจลเย็นรองนอน ให้พวกเขาได้ไปนอนลดอุณหภูมิร่างกายได้เช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment