แมวขาสั้น มันช์กิ้น แมวสุดน่ารักที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม 

by animalkingdom
120 views
มันช์กิ้น

อะไรที่ดูตัวเล็กบนโลกใบนี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะมาพร้อมกับความน่ารักอยู่เสมอ อย่างแมวขาสั้นสายพันธุ์มันช์กิ้น หลังจากที่พวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก พวกเขาก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก เพราะขาสั้น ๆ ของพวกเขาที่ดูเหมือนแง่งขิง เห็นกี่ทีก็อดขำไม่ได้ แถมสายพันธุ์นี้ยังชื่นชอบการยืน 2 ขา ที่อาจเป็นพฤติกรรมทดแทนเพราะเมื่อยืนด้วยขาทั้ง 4 ข้างก็ดูเหมือนจะเตี้ยจนเกินไป

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับมันช์กิ้น แมวขาสั้นราวกับแมวแคระ 

มันช์กิ้น

มันช์กิ้น เป็นสายพันธุ์แมวที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พวกเขาเป็นแมวขาสั้นที่กระตือรือร้น ชื่นชอบการสำรวจและการผจญภัย ถึงจะขาสั้นแต่ก็รวดเร็วว่องไวเป็นอย่างมาก มีความขี้สงสัย หากสนใจอะไรก็จะยืน 2 ขา ทำตัวเหมือนกับเมียร์แคทจนทำให้หลายคนใจละลาย 

นอกจากนี้พวกเขายังทั้งขี้เล่น ขี้อ้อน มักอยู่ติดกับเจ้าของตลอดเวลา แต่ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยง มันช์กิ้น เราต้องทำความเข้าใจลักษณะทางกายภาพของพวกเขาก่อน ว่ามีอะไรที่เราต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง 

มันช์กิ้น

มันช์กิ้น เป็นแมวขนาดกลางที่มีน้ำหนักสูงสุดเพียงแค่ 4 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความสูงยิ่งเล็กไปกันใหญ่ เพราะสามารถสูงได้มากที่สุดประมาณ 18 เซนติเมตร เกินครึ่งฟุตมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตัวผู้จะมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย 

ในส่วนของใบหน้าจะมีความคล้ายคลึงกับสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ นั่นก็คือ ใบหน้าเป็นทรงสามเหลี่ยม คอสั้น ใบหูทรงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ตั้งตรง ดวงตากลมโตสดใสรูปทรงคล้ายลูกวอลนัท มีหางเรียวยาวและปลายมน อุ้งเท้ากลมเป็นมังคุด

หลายคนอาจยังเข้าใจว่า มันช์กิ้น มีแค่พันธุ์ขนสั้น แต่จริงแล้วมีสายพันธุ์ขนยาวด้วย ส่วนสีก็มีหลากหลายสี ตั้งแต่สีเดียวไปจนถึง 3 สี ลำตัวของพวกเขาจะดูกลม ๆ แน่น ๆ แต่ไม่ได้อ้วน สาเหตุที่ทำให้พวกเขาดูตัวตัน ๆ เกิดมาจากขาที่สั้นกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ทำให้ตัวดูตัน เพราะฉะนั้น จะบูลลี่ว่าพวกเขาอ้วนไม่ได้ 

ประวัติของมันช์กิ้น แมวยุคสงครามโลกครั้งที่ 2

มันช์กิ้น

มันช์กิ้น เป็นสายพันธุ์แมวที่พึ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า พวกเขาถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นแมวที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1944 เลยทีเดียว 

ในช่วงเวลานั้นมีสัตวแพทย์ชาวอังกฤษคนหนึ่งที่ดูแลแมวขาสั้นอยู่ เขาสนใจเป็นอย่างมากว่า เพราะเหตุใดแมวจึงมีขาสั้น เขาจึงอยากจะศึกษาพันธุกรรมให้ลงลึกถึงรายละเอียด แต่น่าเสียดายที่การศึกษาดังกล่าวยุติลงเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 อุบัติขึ้น ปรากฏเพียงแค่หลักฐานความสงสัยเท่านั้น

ใช้เวลายาวนานร่วมสี่ทศวรรษเลยทีเดียว กว่าที่แมวขาสั้นสายพันธุ์นี้จะกลับมามีบทบาทในประวัติศาสตร์อีกครั้ง ปี 1980 มีนักพัฒนาสายพันธุ์แมวในหลุยส์เซียน่า สหรัฐอเมริกา ได้ตั้งชื่อให้กับแมวขาสั้นว่า มันช์กิ้น ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครในวรรณกรรมสุดคลาสสิคชื่อดังอย่าง The Wizard of Oz 

จากความน่ารักและดูแปลกตา ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ ใช้เวลาเพียงแค่ไม่นานก็ได้รับการยอมรับและถูกบรรจุให้เป็นแมวสายพันธุ์แท้ โดยสมาคมชื่อดังอย่าง The International cat association

แต่สำหรับสมาคม Cat Fancier Association ไม่ได้ให้การรับรองแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่า การที่แมวมีขาสั้นผิดปกติ เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือจะเรียกว่าเป็นความพิการอย่างหนึ่งก็ได้ ทำให้ มันช์กิ้น มีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย จึงไม่สนับสนุนให้มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่อ

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมันช์กิ้น เจ้าแมวขาสั้น

มันช์กิ้น

สำหรับเพื่อน ๆ หากพิจารณาเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกจะพบว่า มันช์กิ้น เป็นแมวขาสั้นที่มาพร้อมกับความน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ค่อยอยากจะแนะนำให้ทุกคนเลี้ยง เหตุผลก็เหมือนกับการที่มีคนออกมารณรงค์ให้เลิกเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก นั่นก็คือ 

การที่พวกเขามีขาสั้นเป็นเพราะยีนกระดูกพิการจนทำให้ขาสั้นกว่าแมวปกติทั่วไป แม้ว่าจะเป็นความพิการที่สามารถยอมรับได้ แต่ก็ต้องบอกว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้เช่นกัน ถึงสมาคมบางสมาคมจะยอมรับพวกเขาในฐานะสายพันธุ์แท้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ผสมข้ามสายพันธุ์ เพราะจะยิ่งทำให้แมวอ่อนแอมากขึ้น และต้องใส่ใจเรื่องการเลี้ยงดูมากกว่า

มันช์กิ้น เป็นแมวพลังงานสูง ถึงจะขาสั้นแต่ก็ชื่นชอบการเล่นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องออกกำลังกายเพื่อเอาแรงออกและผ่อนคลายจากความเครียด เราต้องมีเวลาและสถานที่ให้พวกเขาได้เล่นและระเบิดพลังอย่างเต็มที่ 

ด้วยเหตุนี้อาหารแมวจึงต้องเน้นโปรตีนเป็นหลัก และควรมีโปรตีนในสัดส่วนที่มากกว่าคาร์โบไฮเดรต ในขณะเดียวกันก็ต้องมีกากใยอาหารและวิตามินในปริมาณที่เหมาะสมกับช่วงอายุและน้ำหนักตัวด้วย เพราะมันจะช่วยให้พวกเขามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากขึ้น

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment