งูไทย สัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษร้ายไม่แพ้กับที่ไหนในโลก 

หากพูดถึงบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลกอย่างป่าอเมซอนนั้น เต็มไปด้วยอสรพิษมากมายที่สามารถทำให้เราถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็ว แต่งูไทยสัตว์เลื้อยคลานประจำประเทศเราเองก็มีพิษร้ายที่อันตรายไม่แพ้กันแต่อย่างใด ความจริงแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีพิษแต่พวกเขาก็ยังคงมีความสำคัญกับระบบนิเวศอยู่ดี โดยเฉพาะงูไม่มีพิษนั้นค่อนข้างน่าสงสารไม่น้อย เพราะพวกเขานั้นเป็นที่หวาดกลัวสำหรับผู้คนและมักจะถูกฆ่าตายอยู่เสมอ Animalkingdom จึงอยากจะรณรงค์ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่เราจะสามารถแยกได้ว่าใครที่มีพิษและไม่มีพิษ และเมื่อเราเจอกับพวกเขา เราจะได้สามารถจัดการได้อย่างถูกวิธี 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดรายชื่องูไทยที่มีพิษร้ายอันตรายถึงชีวิต 

1. งูจงอาง 

งูจงอาง เป็นงูไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก หลายคนรู้จักพวกเขาดีในฐานะสัตว์มีพิษร้ายแรง ที่อันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว โดยปกติแล้วพวกเขาจะอาศัยอยู่บริเวณป่าทึบหรือใกล้กับแหล่งน้ำ พวกเขานั้นสามารถมีลำตัวยาวได้สูงสุดถึง 5.4 เมตรกันเลยทีเดียว แต่โดยเฉลี่ยที่พบส่วนใหญ่จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร ลวดลายและสีสันของพวกเขานั้นจะขึ้นอยู่กับที่อยู่อาศัยอย่างเช่น ภาคใต้จะมีสีน้ำตาลอมเขียวไปจนถึงสีเขียวอมเทา แต่ในภาคเหนือนั้นจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีเกือบดำ เมื่อถูกรบกวนพวกเขาจะแผ่แม่เบี้ยแต่มีความแคบมากกว่างูเห่า พวกเขาจะมีเกล็ดบริเวณท้ายทอยขนาดใหญ่อยู่ 1 คู่บริเวณศีรษะที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

2. งูเห่า 

งูเห่า สัตว์มีพิษที่มีชื่อเสียงโด่งดังตีคู่มากับงูจงอางกันเลยทีเดียว โดยปกติแล้วพวกเขาจะอยู่ตามพื้นดินโดยอาศัยอยู่ใกล้กับทุ่งนา จอมปลวก หรือที่ที่มีความชื้นสูง มักหากินในช่วงเวลากลางคืน ตัวโตเต็มวัยของพวกเขานั้นจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 1.8 เมตร ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้ใหญ่เท่างูจงอางแต่ความน่ากลัวก็คือ พวกเขาสามารถชูตัวขึ้นสูงได้เป็นเมตรเลยทีเดียว มีหลากหลายสีสันตั้งแต่สีเหลืองนวลไปจนถึงสีดำ สามารถแผ่แม่เบี้ยได้ เวลาที่พวกเขาแผ่แม่เบี้ยจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากลางหลังส่วนคอจะมีลายดอกจันเป็นวงแหวนสีขาวหรือสีดำที่ช่วยให้เราแยกพวกเขาออกจากงูจงอางได้อย่างง่ายดาย

3. งูทับสมิงคลา 

สัตว์มีพิษที่พิษมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ใครที่โดนกัดมีโอกาสสูงมากที่จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ ส่วนใหญ่พวกเขาจะออกหากินในเวลากลางคืน มีความคล่องแคล่วว่องไวสูงเป็นอย่าง มักอาศัยอยู่บริเวณที่มีความชื้นสูงตามพื้นดินหรือใกล้กับแหล่งน้ำ เมื่อโตเต็มวัยจะมีความยาวได้ที่ 1.5 เมตร หัวของพวกเขาค่อนข้างกลม มีสันที่หลังแต่สังเกตเห็นได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นเราสามารถทราบได้ว่าเป็นพวกเขาอย่างชัดเจนตรงที่การมีลายสีขาวสลับดำคล้ายกับทางม้าลาย

4. งูกะปะ 

เป็นสัตว์มีพิษร้ายที่อันตรายถึงชีวิตอีกสายพันธุ์เลยทีเดียวสำหรับงูกะปะ พวกเขาหากินในช่วงเวลากลางคืน ที่น่ากลัวคือ พวกเขามักจะซ่อนตัวบริเวณใต้ใบไม้หรือซอกหิน ภายในสวนยางพาราและในป่าชื้นบริเวณที่ลุ่ม ทำให้บางครั้งเราแทบจะไม่สามารถสังเกตเห็นพวกเขาได้เลย และอาจบังเอิญเหยียบจนพวกเขาหันมาฉกเราอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเขาอาจจะมีขนาดตัวไม่ใหญ่มาก โดยเมื่อโตเต็มวัยนั้นจากความยาวอยู่ที่ประมาณ 80 ถึง 100 เซนติเมตร ลำตัวนั้นมักเป็นสีน้ำตาลเทาหรือน้ำตาลแดง มีลายอยู่บริเวณกลางหลังเป็นปลายแหลมสามเหลี่ยมชนกัน หัวของพวกเขาบริเวณจมูกจะเชิดขึ้น ด้วยสีสารที่ค่อนข้างกลมกลืนกับใบไม้ทำให้พวกเขายิ่งสังเกตเห็นยากมากขึ้นกว่าเดิม

5. งูเขียวหางไหม้ท้องเหลือง 

เป็นสัตว์มีพิษที่หลายคนอาจเคยเจอมาก่อน เพราะพวกเขานั้นมักอาศัยอยู่ตามต้นไม้หรือบริเวณที่ใกล้แหล่งน้ำ สามารถพบได้บ่อยในบ้านคนหรือภายในสวน หากินตอนกลางคืนตามพื้นดินเป็นหลัก โตเต็มวัยจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 90 เซนติเมตร พวกเขามีลำตัวค่อนข้างอวบอ้วน สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีพิษ เนื่องจากหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม ทั่วลำตัวจะถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวอ่อนโดยเฉพาะบริเวณหลัง ส่วนบริเวณท้องนั้นจะเป็นสีเหลืองอ่อน ปลายหางจะเป็นสีน้ำตาลแดง หากเป็นตัวผู้ก็จะมีเส้นสีขาวพาดผ่านลำตัวด้านนอกตั้งแต่คอไปจนถึงหางเลยทีเดียว 

6. งูแมวเซา 

งูแมวเซา เป็นงูที่มักจะอาศัยอยู่ตามพงหญ้า ทุ่งนา หรือโพรงดินในที่แห้ง ไม่ค่อยพบเห็นพวกเขาอยู่บนต้นไม้สักเท่าไหร่ พวกเขาน่ากลัวเพราะมีพิษก็จริงแต่ยังพอสามารถสังเกตอารมณ์พวกเขาได้ เนื่องจากพวกเขามักส่งเสียงขู่ก่อนที่จะฉกศัตรู และมักจะหดตัวเป็นวงอยู่เสมอ ถึงพวกเขาจะมีลำตัวอวบอ้วนแต่ก็สามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ความยาวเมื่อโตเต็มวัยจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร เกล็ดจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนและมีลายวงกลมสีน้ำตาลเข้มอยู่ทั่วลำตัว หัวของพวกเขาจะค่อนข้างมนแต่เราก็สามารถสังเกตเห็นต่อมพิษบนหัวพวกเขาได้อย่างชัดเจนอยู่ดี 

ต้องรับมืออย่างไรหากงูไทยมีพิษเข้ามาในบ้านของเรา 

ความจริงแล้วเมื่อเราเจองูไทยไม่ว่าจะมีหรือไม่มีพิษก็ตาม โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีความรู้หรือไม่แม่นยำมากพอ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราควรถอยห่างพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ด้วยการค่อยๆ เดินถอยหลังอย่างช้า ๆ ไม่ควรจัดการกับสัตว์มีพิษเหล่านี้เองโดยเด็ดขาด ให้โทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่มีความสามารถอย่างเช่น 199 สำหรับการแจ้งเหตุอัคคีภัยและสัตว์เข้าบ้าน หรือเบอร์ 1677 ซึ่งเป็นวิทยุร่วมด้วยช่วยกันก็ได้เช่นเดียวกัน 

สำหรับใครที่โดนงูกัดไม่ควรดูดพิษด้วยปากหรือขันชะเนาะ ให้ทำการล้างแผลด้วยน้ำสะอาดแล้วขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 1669 โดยด่วน หากสามารถถ่ายรูปหรือแม้แต่ให้หน่วยงานจับงูไปเป็นตัวอย่างได้ก็จะช่วยให้สามารถรักษาพิษได้อย่างตรงจุดมากขึ้นกว่าเดิม