ซูคาต้า เป็นเต่าที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 3 เลยทีเดียว จากบรรดาเต่าทั้งหมดที่มีอายุยืนกันอยู่แล้ว เป็นรองเพียงแค่เต่าสายพันธุ์กาลาปากอสและอัลดาบราเท่านั้น ปัจจุบันพวกเขาได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงพวกเขาแล้วจะโชคดี มีโชคลาภเงินทอง แต่อย่างไรก็ตามก่อนเลี้ยงพวกเขาเราควรศึกษาให้ดีเพราะว่าพวกเขานั้นมีอายุยืนยาว แถมยังมีน้ำหนักตัวที่มากทำให้ยากต่อการดูแลอีกด้วย วันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน
ทำความรู้จักกับเต่าซูคาต้า สัตว์เลี้ยงที่มีอายุยืนยาวนับร้อยปี
ซูคาต้า หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “เต่าเดือยแอฟริกา” เป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ลักษณะภายนอกพวกเขาจะมีกระดองที่มีลักษณะแบนราบ สมัยเด็กพวกเขาจะมีสีตัวตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีน้ำตาลอมเหลือง หลังจากเข้าสู่วัยรุ่นกระดองของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มสลับกับสีน้ำตาลอ่อน ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปแอฟริกา ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกรวมไปถึงทะเลทรายสะฮารา เมื่อโตเต็มวัยนั้นพวกเขามีความยาวลำตัวได้กว่า 36 นิ้ว และมีน้ำหนักสูงสุดได้ราว 105 กิโลกรัม เลยทีเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูแลค่อนข้างยากไม่น้อย
นอกจากนี้ยังมีอายุยืนยาวนานมากกว่า 100 ปีอีกต่างหาก ดังนั้นหากเรานำเอาสัตว์นำโชคดังกล่าวมาเป็นสัตว์เลี้ยงอาจต้องวางแผนให้ดี เพราะคงต้องได้เลี้ยงจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานกันเลยทีเดียว ปัจจุบันพวกเขาได้รับความนิยมในฐานะสัตว์นำโชคเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าพวกเขาจะช่วยเพิ่มโชคลาภ ด้านความร่ำรวยเงินทองและยังช่วยเสริมบารมีได้อีกด้วย
โดยนิสัยแล้วพวกเขาค่อนข้างเชื่อง เป็นสัตว์นำโชคที่เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยปรากฏว่าทำร้ายใครสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรประมาทเช่นเดียวกัน เพราะฟันของพวกเขาถือว่าคมไม่น้อยเลยทีเดียว หากโดนกัดรับรองว่าเป็นแผลเหวอะหวะเช่นเดียวกัน อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นสัตว์นำโชคที่ได้รับความนิยมนั้น เกิดจากการที่พวกเขามีความขี้อ้อนไม่แตกต่างอะไรจากสุนัขหรือแมวเลยแม้แต่น้อย เป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถเลี้ยงเอาไว้แก้เหงาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังสามารถจำชื่อตัวเองได้อีกต่างหาก เมื่อเราเรียกพวกเขาก็จะเดินมาหา
เตรียมตัวอย่างไรหากต้องการเลี้ยงเต่าซูคาต้า
ซูคาต้า เป็นสัตว์นำโชคที่จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยง EXOTIC ในตอนที่ยังเป็นเด็กพวกเขาจะมีขนาดตัวไม่เกินฝ่ามือเท่านั้น ในช่วงแรกเรื่องที่อยู่อาศัยจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เมื่อพวกเขาโตขึ้นจนมีร่างกายใหญ่โต พวกเขาจะเหมาะสำหรับการเลี้ยงนอกบ้านมากกว่า ควรเลี้ยงในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย มีแสงแดดส่องถึงแต่ก็มีจุดที่มีร่มเงาให้พวกเขาได้หลบแดดเช่นเดียวกัน
แนะนำให้ปลูกหญ้าเอาไว้บริเวณตรงกลางจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ในช่วงแรกเราอาจจะต้องเลี้ยงพวกเขาในบ้านและรักษาให้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส สวนอาหารนั้นสามารถให้ได้ทั้งใบไม้และหญ้าสำหรับเต่า นอกจากนี้ยังมีอาหารเม็ดที่เป็นหญ้าอัดแท่งผสมน้ำให้พวกเขากินก็ได้เช่นเดียวกัน ควรจัดให้มีถาดขนาดเล็กใส่น้ำอยู่ในบริเวณพื้นที่ของพวกเขา โดยจะต้องเป็นถาดที่ตื้นและขอบต่ำ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำความสะอาดตนเองรวมไปถึงกินน้ำได้
