งูแมวเซา งูพิษรูปร่างอวบอ้วนที่มาพร้อมกับความอันตราย

by animalkingdom
172 views
งูแมวเซา

งูพิษที่มีอยู่ในประเทศไทยนั้นถือว่าไม่ได้มีมากมายนัก แต่งูพิษแต่ละชนิดกลับมีพิษที่ร้ายแรง อย่างงูแมวเซา งูพิษที่หลายคนคงไม่ทราบว่า หากโดนกัดและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที คุณก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงใกล้เคียงกับงูเห่าและงูจงอางเลยทีเดียว งูชนิดนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร และมีอะไรบ้างที่เราต้องรู้และระวังเอาไว้เมื่อเจอกับพวกเขา วันนี้เรามีคำตอบมาให้

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับงูแมวเซา งูพิษที่ดุร้ายขัดกับบุคลิกภาพของตัวเอง 

งูแมวเซา

งูแมวเซาเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่รูปร่างของพวกเขาดูอ้วนป้อมจนคล้ายกับงูเหลือม แถมลำตัวยังสั้น มีหางกับเขาทั้งทีแต่ก็สั้นเสียจนแทบจะมองไม่เห็น เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวลำตัวเพียง 166 เซนติเมตรเท่านั้น 

ในอดีตพวกเขาเคยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของงูแมวเซาอินเดีย แต่ในปัจจุบันพวกเขาถูกแยกสายพันธุ์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 สายพันธุ์จะแตกต่างกันตรงสีและลวดลาย สำหรับงูแมวเซาที่สามารถพบได้ในประเทศไทยจะมีลำตัวเป็นสีน้ำตาลอมเทา บางตัวก็เป็นสีน้ำตาลอมชมพู 

มีลวดลายเป็นปื้นวงกลมทั่วทั้งลำตัวขนาดใหญ่สีน้ำตาลเข้ม บริเวณท้องจะเป็นสีขาวนวลและเต็มไปด้วยจุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก เกล็ดของพวกเขามีขนาดเล็กละเอียดและมีสัน อาจมีเกล็ดสีชมพูแซมขึ้นมาบริเวณสีข้างของลำตัว 

หัวของงูแมวเซาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมและมีลวดลายสีดำคล้ายกับธนู สามารถพบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในประเทศพม่า ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ภาคใต้ของจีน ในประเทศไต้หวัน รวมถึงประเทศไทยของเรา บริเวณที่พบเยอะที่สุดคือภาคตะวันออกและภาคกลาง 

งูแมวเซา

สาเหตุที่งูแมวเซามีชื่อเช่นนี้เป็นเพราะว่า เวลาที่ถูกรบกวนหรือตกใจ พวกเขามักจะหดตัวเป็นวงกลมเพื่อเตรียมสู้และระแวดระวังตัว จากนั้นก็จะทำเสียงขู่ด้วยการพ่นลมเหมือนกับยางรถยนต์รั่ว เริ่มต้นจากการสูบลมหายใจเข้าปอดจนตัวพอง จากนั้นก็จะพ่นลมออกมาทางจมูกอย่างรุนแรง 

หากขู่แล้วยังไม่หยุด งูแมวเซาจะรีบฉกกัดอย่างรวดเร็วจนเราไม่ทันตั้งตัว อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขาอันตรายนอกเหนือจากพิษงูก็คือ งูไทยสายพันธุ์นี้สามารถผงกหัวขึ้นมาฉกเราได้ ถึงแม้ว่าลำตัวของพวกเขาจะยังขดอยู่ในลักษณะที่ปกติก็ตาม หากไม่มีเสียงขู่ดังฟ่อออกมาก่อน บางทีเราอาจจะโดนพวกเขาฉกกัดไปแล้วก็ได้ 

เปิดพฤติกรรมของงูแมวเซาที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าพวกเขาไม่ดุ 

งูแมวเซา

งูแมวเซาเป็นสัตว์กินเนื้อที่สามารถล่าเหยื่อได้หลากหลาย ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กอย่างหนูหรือกระต่าย รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานด้วยกันที่มีขนาดเล็ก อย่างเช่น ตุ๊กแก จิ้งจก จิ้งเหลน หนึ่งในความน่าสนใจของงูแมวเซาก็คือ พวกมันออกลูกเป็นตัว ไม่ได้ออกลูกเป็นไข่เหมือนกับงูสายพันธุ์อื่น

ในการออกลูก 1 ครั้ง สามารถออกลูกได้ตั้งแต่ 20 ตัวไปจนถึง 60 ตัวกันเลยทีเดียว พวกมันจะผสมพันธุ์กันในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม จากนั้นก็จะออกลูกในช่วงฤดูร้อน งูที่เพิ่งเกิดใหม่จะมีน้ำหนักไม่เกิน 14.4 กรัม และมีความยาวเฉลี่ยประมาณ 1 ฟุตเท่านั้น 

ถึงจะขนาดตัวเล็กน่ารักแค่ไหนแต่เราขอแนะนำว่า หากเจอแล้วให้ระวังตัวให้ดี เพราะงูพิษทุกสายพันธุ์บนโลกใบนี้ เกิดมาพร้อมกับพิษร้ายไม่ต่างจากตัวโตเต็มวัย

พวกเขามักจะอาศัยในบริเวณที่ราบแห้งแล้ง บริเวณเชิงเขาที่เป็นดินร่วนปนทราย หลบซ่อนตัวอยู่ในโพรงดินหรือซอกหิน ปกติแล้วถ้าอยู่ตรงไหนก็จะอยู่ตรงนั้น ไม่ชอบการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยบ่อย ๆ และโดยปกติแล้วจะหากินตามพื้นมากกว่าอยู่บนต้นไม้ และออกหากินไม่ไกลจากแหล่งที่อยู่อาศัย

โดยปกติแล้วงูแมวเซาเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเชื่องช้า เนื่องจากลำตัวที่อวบอ้วนจึงทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่คล่องตัวสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็มาพร้อมกับความดุร้ายอย่างถึงขีดสุดเช่นกัน ความแปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกมันชื่นชอบอากาศเย็นแต่ไม่ชอบน้ำ จึงมักจะอาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง ในตอนกลางวันที่อากาศร้อนมักจะซุกซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด พอตกกลางคืนที่อากาศเย็นลงจึงจะออกมาหากิน

พิษของงูแมวเซา ความอันตรายที่ปลิดชีพคุณได้ภายใน 3 ชั่วโมง 

งูแมวเซา

งูแมวเซา เป็นสัตว์มีพิษที่อันตรายเป็นอย่างมาก หากเราโดนกัดและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้คุณเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง หลายคนอาจทราบอยู่แล้วว่าพิษของงูนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ซึ่งประกอบไปด้วย พิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทและพิษที่ส่งผลต่อระบบเลือด

สำหรับงูแมวเซาแล้ว พิษของพวกเขาจะส่งผลต่อระบบเลือด ดังนั้นเวลาที่โดนกัดจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดเป็นพิเศษ เพราะพิษจะเข้าไปส่งผลกับการแข็งตัวของเลือดโดยตรง มันจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสลายตัวในกระแสเลือด เลือดจึงไหลออกง่ายและไหลไม่หยุด 

เกล็ดเลือดที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวจะถูกใช้ไปจนหมด ซึ่งนั่นก็จะทำให้แผลหายช้าลงกว่าเดิม นอกจากนี้พิษของมันยังส่งผลต่อไตอีกด้วย สามารถทำให้เกิดอาการไตวาย และมันยังทำลายเม็ดเลือดแดงโดยตรง

อาการของคนที่โดนกัดจะรู้สึกปวดแผลเป็นอย่างมาก บริเวณแผลจะบวมเป่งภายในเวลาเพียงแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น รอยเขี้ยวพิษของพวกเขาจะเป็นจุดที่มีเลือดไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา จากนั้นโดยรอบบาดแผลจะมีสีที่คล้ำขึ้นอย่างชัดเจนภายในเวลาเพียง 20 นาที 

หากยังไม่นำส่งโรงพยาบาล บริเวณที่ถูกกัดก็จะบวมทั้งหมดภายในเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นอวัยวะส่วนนั้นจะเกิดอาการพองเหมือนกับจะระเบิดและมีเลือดออกไม่หยุด นอกจากนี้ยังมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อย่างเช่น เลือดออกเป็นจ้ำตามผิวหนัง มีเสมหะปนเลือด เลือดออกตามไรฟัน ปัสสาวะและอุจจาระออกมาเป็นเลือด เลือดจะออกมากขึ้นไม่หยุดจนส่งผลให้ความดันต่ำ หลังจากนั้นไตก็จะวายและทำให้เราเสียชีวิตในที่สุด 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment